ถ้าเปรียบเทียบก็จะอยู่ทางใต้ของโตเกียวใช้เวลาเดินทางราวราวชั่วโมงกว่า
โดยเริ่มที่ ueno หรือจะเป็น shinjuku ก็ได้ พยายามไป ให้ได้เจอสายที่ชือว่า Yokosuka Line
เนื่องจากเราเริ่มที่ ueno นั่ง JR
ดังนั้นเราจึงไปต้องไปเปลี่ยน JR ที่สถานี shinagawa เพื่อไปต่อสาย Yokosuka Line
สายนี้จะเป็นสายเดียวที่ไปถึงคามาคุระเลย ง่ายและสะดวกที่สุด เราเดินทางราวราว 11.01 น.
รถไฟก็จะมาเป็นการเดินทางที่สะดวกมาก อากาศวันนั้นราวราว 6 องศาก็หนาวเชียว
ในที่สุดเราก็มาถึงสถานีคามาคุระ จนได้ ส่วนเวลานั้นลืมดู
โดนค่าเดินทางไป 890 เยนด้วยบัตร passmo
ปกติ ชื่อก็บอกว่าสถานีคามาคุระ หลายคนคนจะคิดว่าต้องถึงเลยที่ได้ชมพระใหญ่เลย
แต่เราต้องจำไว้ส่วนมาก ที่ญี่ปุ่นเขาก็จะมีกลยุทธ์การท่องเที่ยว
คือให้ต่อรถไฟสายท้องถิ่น (ชื่อว่า Enoden line) อีกหนึ่งต่อ
เหมือนกับประมาณรถไฟสายสั้นๆ ซึ่งเป็นการพยายามหารายได้
และท้องถิ่นก็จะได้รายได้ โอ้แยบยลจริงๆ
สถานีเชื่อมกันอยู่แค่เราเดินออกมา
เราก็ต่อได้เลย เราก็นั่งไปอีก 3 สถานี ไปลงที่สถานี Hase จ่ายไปอีก 190 เยน
รถไฟสายท้องถิ่นรถไฟมาทุก 12 นาที
เราก็เลยยืนรอรถไฟสายท้องถิ่นอีกครั้ง
แต่แบบว่า คนก็เยอะจริงเลย วัยรุ่นก็นิยมมาเที่ยว
แต่แบบว่า คนก็เยอะจริงเลย วัยรุ่นก็นิยมมาเที่ยว
ชาวต่างชาติก็นิยมมาเที่ยวกัน
เพราะวันนี้เป็นวันอาทิตย์ที่มีแดด แต่อากาศหนาวมาก
ในที่สุดเราก็ถึงสถานี Hase ที่สถานีนี้มีร้านร้อยเยนด้วย
รู้สึกถุงมือในร้าน 105 เยน จะขายดีเป็นพิเศษเพราะอากาศหนาวมาก
รู้สึกถุงมือในร้าน 105 เยน จะขายดีเป็นพิเศษเพราะอากาศหนาวมาก
เมื่อ ออกจากสถานีก็จะต้องเดินเท้าอีก ฟังดูไกล แต่ไม่ไกลหรอกครับ
ระหว่างทางก็จะมีร้านขายของทีระลึกเรียงรายตามทาง รวมถึงอาหารด้วย เยอะแยะไปหมด
โดยที่ก็สินค้าก็ประมาณแนวแนวจตุจักร ของที่ระลึก มีพ่อค้าแม่ค้ายิ้มแย้มแจ่มใสให้การต้อนรับ
ระหว่างทางก็มีร้านขายของเยอะ ระยะทางราว 200 เมตรได้
ซ้ายมือเราจะเจอวัด Hasedera คนไทยจะอ่านว่า ฮาเซเดร่า
แต่ คนญี่ปุ่นจะอ่านว่า ฮาเซเดระ
แต่เราไม่ต้องเลี้ยวนะ เพราะวัดนี้เรานี้วางแผนจะเดินมาดูอีกทีตอนกลับ
ให้เราเดินตรงต่อไป เราก็จะเจอทางไปดู Kamakura เดบุซึ
โอ้ในที่สุดเราก็เจอแล้ว ด้วยค่าผ่านประตู 200 เยน แต่ก็ต้องคุ้มมาก
เป็นความประทับที่สุดอีกครั้ง
แต่ก่อนเคยเห็นแต่ในรูปของคนอื่นๆที่เขาไปเที่ยวกัน จะได้มาไหมหนอเรานะ
โอ้ไม่นึกไม่ฝันเราจะได้มาเห็นพระองค์ใหญ่ด้วยตาของตนเองจริงๆ
พระนี้รูปเป็นปูนสำริดมั้งครับ ภายในตัวพระนั้นกลวงครับ
ถ้าจะเข้าในดูในตัวพระก็จ่าย 20 เยนครับ ถูกมาก
ต่อแถวเข้าไปดูได้ แต่จริงๆก็ไม่มีไรข้างในนะ ส่วนมากคนก็เข้าไปสัมผัสภายในองค์พระนะ
ด้านข้างๆ พระใหญ่ ก็เป็น ร้านขายของครับ ขายของทีระลึก
ซึ่งตามปกติเราก็จะพบได้ตามทุกทีครับ
เมื่อเราชื่นชม สุนทรียภาพ เสพความประทับใจได้สักพัก
เราก็ต้องออกจากวัดนี้ครับ ไปต่ออีกวัดหนึ่งครับ วัด Hasedera ครับ
ที่หน้าวัดนี้จะมีโคมแดงอยู่ด้วยนะครับ
วัดนี้จะสวยดีนะครับ เป็นเหมือนวัดเขาน้อย อะครับ
ก็ต้องเดินขึ้นเขาไปนิดหน่อยเองครับ เป็นเขาเตี้ยๆ ไม่สูงมาก
วัด Hasedera นี้ค่าเข้า 300 เยนครับ เราก็ต้องจ่ายครับ เพราะไหนไหนมาแล้ว สวยมาก
จะจ่ายด้วยตู้หยอดเหรียญก็ได้นะครับ วัดนี้จะมีไม้ใบเปลี่ยนสีด้วย
แล้วก็ ขึ้นไปดูวิวครับ มองเห็นวิวทะเล เลย ได้ยินเสียงคนไทยก็เยอะเหมือนกันนะครับ
มี มันจู ขาย ก็คือซาลาเปาไส้เห็ดนั้นเองลูกละ 200 เยน เราก็เลยจัดซะ
กินไป ดูวิวทะเลไปสักพัก เห็นเหยี่ยว ซึ่งเหยี่ยวบินไปมาแถวๆนี้ครับ
สุดท้ายเมื่อได้เวลาอันสมควรราวราว 16.00 เราก็เตรียมตัวกลับแล้วครับ
เราเลยมุ่งตรงกลับไปที่ มองหาทิศ โตเกียว shinjuku ครับ
โดยที่รถไฟก็จะวิ่งตรงไป shinjuku เลยนะครับ
แล้วก็นั่งรถย้อนมาแค่ 1 สถานีเพื่อมาลงที่ JR yoyogi ครับ
ทำไมเราต้องมาที่ JR yoyogi เพราะว่า?
วันนี้เราจะไปทานบุฟเฟต์หมูย่างราคาประหยัดกันนะครับ
ราคา 1280 เยน รวมน้ำแล้ว มีอาหารให้เลือก 32 อย่างครับ
ถ้าในโตเกียวราคานี้ถือว่าไม่แพงเลย
ร้านนี้ชื่อว่า GUT's soul นะครับ เป็นบุฟเฟ์ต์ ปิ้งย่างครับ
www.guts.gr.jp/
ร้านนี้จะอยู่แถว JR yoyogi เมื่อออกจากสถานี JR ออกมาแล้ว
ให้เดินตรงไป มองเห็นจะเป็นแนวที่สะพานรถไฟ ขวางอยู่บนหัว ก็เดินไปครับ
ไม่ต้องลอดใต้สะพานนะครับ
มองขวามืออยู่ที่ชั้น 3 นะครับ ร้านนี้ มีเมนูภาษาอังกฤษแต่ไม่ได้ request ขอไป
เพราะการบริการยังไม่ค่อยโอเคเท่าไหร่ แต่ก็ไม่ได้แย่นะครับ
ส่วนวิธีการสั่งก็คือไปบอกเขาว่ามากี่คน แล้วก็มานั่งที่โต๊ะ
แล้วกดสั่งรายการเนื้อทางเมนูครับ
โดยกด หมายเลขสินค้า
จำนวนกี่จาน
ยืนยัน แล้วก็ ตกลง
หลาย step หน่อย
ตอนแรกก็งงนะครับ เพราะมันเป็นภาษาญี่ปุ่น
เพราะตอนแรกกดเท่าไหร่ ก็ไม่เห็นมีบริกรเอามาเสริฟเลย
สุดท้ายก็พอ get และเข้าใจครับ ต้องกดปุ่มยืนยันออเดอร์ด้วยนะครับ
ค่าเปลี่ยนตะแกรง 20 เยน 909 นะครับ ถ้าจะเปลี่ยน
ทานได้ 90 นาทีครับ รวมโคคาโคล่า ไปกดที่ตู้กดเอาเองครับ
last order ที่ 60 นาที เขาจะมาเก็บ เมนูไปครับ
เมนูสั่งได้ที่แนะนำได้แก่ หมายเลข 21 ครับ หมู slice ครับ และ มันฝรั่งทอด
ปลาหมึก 1 จานก็พอ แต่ ตัวเองชอบหมูหมัก slice ที่สุดครับ roast pork ครับ
ส่วนหมู dice เหลี่ยม ไม่อร่อยอะครับ เพราะ มีมัน เยอะเหมือนแนวๆคอหมูย่าง ไม่อร่อย
เมื่อกินเสร็จก็เดินไปที่แคชเชียร์ แล้วพูดว่า โอกังโจววววเดส ลากเสียงโจว ยาวววๆ หน่อย
บอกว่าคิดตังด้วยครับ
สุดท้ายก็อิ่มแหละ กลับบ้านนอนครับ