นั่งพึมพำกับตัวเองว่า มาญี่ปุ่นทั้งที ถ้าไม่ได้มานอนแช่ออนเซ็นก็คงจะเสียใจแน่ๆ เลย ก็เลยนั่งหาข้อมูลผ่านเน็ตสักพักว่าจะไปที่ไหน ที่สะอาด ที่แบบว่าคุ้มๆ ก็เลยมาเจอ Oedo Onsen Monogatari ที่ โอไดบะ Odaiba จริง โอไดบะเป็นเกาะ นี่มาหลายครั้งแล้ว แทบจะหลับตาเดินได้เลย เพราะมาบ่อยมาก ทั้งห้าง Venus และ ช็อบ outlet แต่ก็ยังไม่เคยได้เข้าออนเซ็นเลย เพราะตอนนั้นยังไม่กล้า พอตอนนี้ได้เวลาที่เหมาะสมก็เลย ชวนเพื่อนไป เพื่อนที่ไปก็ต้องรู้ใจกันหน่อยนะ
การเดินทางนั่งใต้ดินสีชมพู
Oedo ไปลงที่ shimbasi ก็ได้ หรือ shimodome ก็ได้แล้วต่อสาย YURIKAMOME
รถไฟแบบรางเดี่ยว สำหรับสายนี้แนะให้ซื้อตั๋ววัน 900 เยน (ปีก่อน 2011 แค่
800 เยนเอง) ก็จะสะดวก นั่งมาลงที่สถานี telecom center
พอถึงที่ออนเซ็นก็เข้าไปได้เลย
ก่อนอื่นนั้นขออธิบายออนเซ็นสำหรับคนที่ไม่เคยเข้าก่อน
ก็ต้องทำใจนิดหน่อยเพราะมันต้องเปลือยทั้งหมด แต่ก็ไม่เคยหวั่นอยู่แล้ว
เพราะว่ามั่นใจครับ
สำหรับออนเซ็นแห่งนี้มันเป็นออนเซ็นที่คิดว่าน่าจะดีที่สุดคือ
มีกิจกรรมอะไรให้ทำด้วย อยากรู้แล้วใช่ไหมก็ต้องตามไปอ่านนะ
จะเขียนอธิบายทีละขั้นเลย
สำหรับออนเซ็นแห่งนี้มันเป็นออนเซ็นที่คิดว่าน่าจะดีที่สุดคือ
มีกิจกรรมอะไรให้ทำด้วย อยากรู้แล้วใช่ไหมก็ต้องตามไปอ่านนะ
จะเขียนอธิบายทีละขั้นเลยค่าเข้าก็ 2180 เยนครับ (วันธรรมดาราคา 1980 หลังหกโมงเย็น 1480-1680) เปิดตั้งแต่เช้า ราวราว 11.00 โมง ถึง 9 โมงเช้าวันรุ่งขึ้น ถ้าไม่มีตังค์จ่ายค่าโรงแรมแสนแพงมานอนนี้ได้นะ ส่วนภายในเมื่อเข้าไปแล้วก็จะ
(1)ถอดรองเท้าใส่ตู้รองเท้า
(2)ไปที่เคานเตอร์รับกุญแจล็อกเกอร์และแท็กบราโค้ด ยังไม่ต้องจ่ายเงินตอนนี้ จะจ่ายตอนสุดท้ายทีเดียวตอนกลับ
(3)แล้วเลือกลายของชุดยูกาตะ
(4) เข้าห้องเปลี่ยนชุดตรงนี้ห้องจะแยกชาย หญิง
(2) ตรงนี้บอกที่เคานเตอร์เขาไปว่ามากี่คน เขาจะได้สายคล้องมือ+กุญแจตู้
(3) เดินถัดมาก็มาเลือกลายชุด
(4) แล้วก็พอเราได้ชุดก็เอากุญแจมาไขตู้ แล้วเปลี่ยนชุดของเราเป็นชุดยูกาตะในห้องแต่งตัว
(ในรูปนี้ยังใส่ กกน อยู่นะ ยังไม่ต้องรีบถอดนะครับ)
เมื่อเปลี่ยนเครื่องแต่งตัวพร้อมแล้ว เอาเงินใส่ในตู้ล็อคเกอร์ตรงนี้นะ ไม่ต้องพกไป แล้วเดินเข้าไปในส่วนลึกเข้าไปอีก ก็จะเป็นเป็นโถงกว้างๆ กว้างมากๆ ประกอบด้วยร้านขายของสไตล์ย้อนยุค ในนี้จะมี ซุ้มอาหาร กิจกรรมย้อนยุคแบบงานวัดญี่ปุ่น เกมช้อนปลาพลาสติก เราก็สามารถใช้ tag ของสายคล้องมือ น่าจะเป็น barcode สำหรับจ่ายไปเวลาที่ใช้จ่าย เล่นกิจกรรมต่างๆ ซื้ออาหาร หรือเครื่องดื่ม
ในโถงกลางนี้จะมีร้านอาหารเยอะมาก ซึ่งในนี้จะมี ชาร้อนเย็น และน้ำเปล่า บริการฟรี ก็สามารถกดที่ตู้ดื่มได้ แล้วที่สำคัญมีชาให้เลือก หลายแบบทั้งร้อนและเย็น มีที่นั่งเล่นนั่งคุย สามารถ อยู่ได้ทั้งวัน โดยเฉพาะคนที่มาเป็นคู่(รัก) เพราะว่าอากาศเย็นสบาย อาหารราคาไม่แพงมาก 400-500 เยน และกิจกรรมเยอะดี
หลังจากเดินเล่นใน โถงสักพัก เราก็จะเริ่มไปแช่เท้าที่บ่อ
out door ก่อน ซึ่งตรงนี้ยังไม่ต้องเปลือยอะไร ก็เดินไปที่บ่อ
ก็จะเห็นวัยรุ่นชาย หญิงหนุ่มสาว นั่งขาแช่น้ำกัน พูดคุยกัน ในบ่อนี้
เราสามารถเดินลุยได้เพราะ พื้นบ่อปูด้วยหิน ก็เหมือนกับเดินนวดเท้าไปในตัว
โดยที่ ตัวเบทเองก็ไม่ได้เดินเท่าไหร่ เพราะมันเดินยาก
เดี่ยวจะพลาดลื่นหัวแตก ก็เลยเก็บบรรยากาศมาฝากเพื่อนๆ
ที่ตรงนี้มีบ่อปลาตัวเล็กด้วยแต่ต้องเสียเงินเพิ่ม ราวราว 2000 เยน
ต่อครึ่งชม.
นั่งแช่เท้าได้สักพัก เลยเปลี่ยนบรรยากาศ เปลี่ยนห้อง และพร้อมแล้วสำหรับการสวมชุดวันเกิด ก็ต้องเข้าไปแช่ในบ่อน้ำร้อนขนาดใหญ่ ซึ่งจะแยกชาย หญิง นะครับ ถ้าไม่แยกคงวุ่นวายน่าดู แต่ก็คงจะถ่ายรูปเก็บบรรยากาศไม่ได้นะครับ เพราะเขาไม่ให้เอากล้องถ่ายรูปเข้า
เมื่อเข้าไปแล้วก็จะมีล็อคเกอร์อีกอันให้เก็บชุดยูกาตะ กกน และเก็บกล้อง พอเก็บเสร็จ ก็หยิบผ้าขนหนูผืนเล็ก เข้าไปห้องโถงที่ลึกเข้าไปอีก ซึ่งมันเป็นโถงออนเซ็น แล้วก็ล้างตัวก่อนนะครับ พอล้างตัวเสร็จ เดินชุดวันเกิดออกมาก็เลือก ลงบ่อ ตามสบายครับ
มีทั้งบ่อ ทั้ง indoor ourdoor บ่อน้ำแร่ บ่อเย็น 20 องศา บ่อร้อน 39,40 องศา เยอะหลายบ่ออยู่ ก็ลองแช่ดู มันมีห้องซาวน่าฟรีด้วย แล้วก็ เข้าซาวน่าร้อนด้วย ก็เรียกเหงื่อได้เป็นอย่างดี มีบริการห้องนวดตัวด้วย ซึ่งก็แพงอยู่ ย้ำว่าช่วงห้องโถงนี้เปลือยหมด มีแค่ผ้าขนหนูผืนเล็กที่ถือในมือเท่านั้น จริงๆความรู้สึกก็ตื่นเต้นโดยไม่น้อยที่ต้องเปลือยต่อหน้าคนอื่น แต่เมื่อเราไม่รู้จักใคร สักพักก็จะชินไปเอง แต่ก็ไม่ได้รู้สึกประหม่าใด
พยายามทำตนให้เป็นธรรมชาติที่สุด เพราะทุกคนในห้องก็เปลือยหมดราวราว 40-50-60
คน
ในห้องนี้มีทั้งเด็ก และผู้ใหญ่ วัยรุ่น แบ่งได้เป็น วัยรุ่น 50% พ่อมากับลูกเด็ก 30% คนสูงวัย 20% คนก็จะเวียนเข้าเวียนออกห้องออนเซ็นตลอดเวลา (ห้องนี้กว้างนะครับมีตั้ง 6-7 บ่อ) ด้วยความเชื่อโบราณของคนญี่ปุ่นที่ว่าแช่แล้วจะสุขภาพดี เนื่องจากค่าเข้าแพงถ้าเทียบเป็นเงินไทย ดังนั้นก็เลยเก็บให้คุ้ม เราอยู่ในนั้นนานแต่เราไม่ได้แช่หรอก เพราะเดี่ยวจะหน้ามืด ก็เลยนั่งเล่นในนั้นด้วย ไม่ได้รู้สึกอายแต่อย่างใด เพราะเราไม่รู้จักใคร เลยรู้สึกเฉยๆ นั่งซักพักก็เบื่อๆ ก็เลยออกมานั่งเล่น ข้างนอกตรงที่เป็น โถงร้านอาหาร และก็ มีห้องนอนพักดูทีวีส่วนตัวด้วยที่ชั้น 2 นะ ย้ำว่าฟรีนะ ดังนั้นก็ต้องลองให้หมด
ความรู้สึกส่วนตัว มันเป็นประสบการณ์ที่สนุกมาก เพราะไม่เคยเข้าออนเซ็นเลย การมาครั้งนี้ก็ได้เรียนรู้ว่าสังคมญี่ปุ่นการอาบน้ำด้วยกัน ว่ามันไม่มีการปกปิด ดูวัยรุ่นเพื่อนๆ เขาก็มาด้วยกัน ดูมาคุยกัน มาเล่นกันสนุกสนานดี เป็นวัยรุ่นอายุราวราว 18-20 ปี ก็ดูน่าสนุกดีนะ ดังนั้นถ้าเพื่อนๆที่สนใจ มีโอกาสไปญี่ปุ่น ก็แนะนำที่นี่เลย มาแล้วคุ้มแล้วจะไม่ผิดหวังเลย เพราะที่นี่มันเป็นมากกว่า onsen ส่วนใครอยากมาแต่มาไม่เป็นก็ติดต่อมาได้นะ จะพาไปนะครับ อิอิ
เมื่อได้เวลาสมควร ก็ต้องกลับเข้าโตเกียวแหละ ก่อนกลับแวะถ่ายรูปกับเทพีเสรีภาพจำลอง และสะพานเรนโบว์ ที่สถานี Daiba และก็จบทริบนี้ด้วยความประทับใจ เวลาแห่งความสุขช่างสั้นยิ่งนัก หุหุ
ว้าวววว ดีจังเบท ไปญี่ปุ่นทุกปัเลย คราวนี้ไปทำอารายเหรอ ไปนานยังอะ
ตอบลบไปด้วยๆคร้าบ
ตอบลบชอบมากเลยครับ บรรยากาศดีมาก ไม่กล้าสัก เพราะ กลัวลง ออนเซ็น ไม่ได้ ไม่กล้าเสี่ยง ไม่มีใครกล้ารับประกัน เรื่อง มีรอยสักแล้วจะลงแชทน้ำออนเซ็นได้ หรือ โดนแบนนั่งรอ
ตอบลบเดี่ยวนี้มี แผ่นปิดขายไม่ละลายน้ำ ที่ donki นะ
ลบไปลองดูนะครับ
ตอบลบ