รีวิวพาเที่ยวญี่ปุ่น เดินทาง และ มองรอบตัว
บันทึกประสบการณ์เที่ยว
[รับทำ Sponsored review ด้วยนะครับ]
วันอังคารที่ 5 มิถุนายน พ.ศ. 2555
ฮันยองฮาเซโย ที่โซลแบบไปทำงานด้วย
เกาหลีใต้เป็นประเทศหนึ่งที่หลายคนฝันจะไปฮันยองฮาเซโย ผมเองก็อยากจะมีโอกาสสักครั้งไปบ้างครับ จึงได้ส่งงานประชุมวิชาการ ICISA งานนี้จัดที่เมืองซูวอน ซึ่งเป็นเมืองต่างจังหวัดห่างออกไปจากกรุงโซลประมาณ 1.40 ชม.ด้วย รถประจำทางแบบ non-stop การเดินทางนี้เริ่มต้นที่สุวรรณภูมิด้วยสายการบินจินแอร์ ซึ่งเป็น low cost แบบสุดๆกับราคาที่สบายกระเป๋าสอดคล้องการใช้เงินทุนสนับสนุนให้เกิดประโยชน์ที่สุดกับสโลว์แกนคนจนจนอย่างผมก็บินไปเกาหลีได้ ผมไปถึงที่สนามบินอินชอนตอนเช้าตรู่ แล้วก็ต่อรถประจำทางแบบ non-stop ราคา 12,000 วอนคิดเป็นเงินไทยก็ราวราว 360 บาท ลงสุดสาย หลังจากนั้น ก็แท็กซี่ต่อไป มหาวิทยาลัย Kyonggi เมื่อไปถึงก็พบว่า มหาวิทยาลัยตั้งอยู่บนเขา ซึ่งผมก็ต้องเดินขึ้นเขาไป ผมไปถึงงานราวราว 11.00 น.ซึ่งถึงก่อนเวลามาก จึงเริ่มสำรวจสภาพแวดล้อมของมหาวิทยาลัยตามความชอบ แม้ไม่มีโอกาสมาเรียนต่างประเทศ แต่ก็ชอบที่จะท่องเที่ยวและชื่นชมสถานที่แปลกใหม่
หลายคนสงสัยว่าทำไมผมชอบเดินทางมาก ผมเองก็อยากจะบอกว่าคนเรามีชีวิตโลกนี้ได้ไม่นานนัก บางทีที่เราไปอาจจะเป็นครั้งสุดท้ายที่เราไปที่นั้น ดังนั้นถ้ามีโอกาสเข้ามาหาเรา ให้เราเดินทางไปยังที่ต่างๆ เราก็ควรไขว้คว้าประสบการณ์นั้นไว้ เพราะเราไม่รู้ว่าเราจะได้มีโอกาสมาเหยียบพื้นดินตรงนั้นอีกไหม
เวลา 15.00 น. ผมได้ขึ้นนำเสนอเป็นคนแรกของงาน ภายในห้องการประชุมก็มีคนเข้าฟังราวราว 20 คนซึ่งเป็นคนที่นำเสนอในห้องเดียวกับผม และ บางคนก็เป็นนักเรียนในมหาวิทยาลัยนั้นที่ อาจารย์เกณฑ์ให้มาฟัง ผมได้นำเสนอคนแรก ด้วยความประทับใจ มีคนสนใจงานมากมาย มีหลายคำถามที่ฟังออกบ้าง บางคำถามก็ฟังไม่ออกบ้าง เนื่องจากไม่คุ้นชินกับสำเนียงของผู้ถามต่างชาติ แต่ก็ไม่เคยหวั่น เพราะว่าข้ามฟ้ามาซะขนาดนี้แล้ว จัดเต็มมาเต็มร้อยซะขนาดนี้ ทุกอย่างเลยเป็นเรื่องเล็กน้อยไปเลย งานประชุมนี้ ถือว่าเป็นงานในความทรงจำของผมเลยทีเดียว เพราะย้อนไปเมื่อ 3 ปีก่อนผมเคยมางานนี้ก่อนเพราะผมประทับใจ การจัดงานครับ เป็นปี 2010 ซึ่ง ปีนั้นจัดขึ้นที่กรุงโซล มันโก้หรูมาก แต่ปีนี้ สถานที่จัดงานอาจจะดูไม่โก้หรูมากนักเพราะจัดงานที่ภายในมหาวิทยาลัย แต่ผมก็ภูมิใจเพราะว่ามันเป็นงานที่ผมสนใจ และผมสามารถฟังเข้าใจได้ทุกเรื่อง ทุกห้อง ทุกหัวข้อ เพราะคือมันตรงกับความสนใจของกระผม และอีกอย่างงานนี้ก็ได้นำบทความในงานประชุมไปลง IEEE อีกด้วยก็เป็นโอกาสดีมากที่จะได้มีชื่อลงฐานข้อมูลสากลกับเขาบ้าง และที่พิเศษสุด ในปีนี้ผมได้รับเกียรติเป็น Program
Committee ของงานประชุมวิชาการนี้ด้วย
งานนี้มีคนไทย 2 คนเท่านั้น คือผม กับ อาจารย์ ดร. หน่อย ที่เป็นอาจารย์รุ่นใหม่ไฟแรงสอนที่ ม.ขอนแก่น แม้จะเป็นการเจอกันครั้งแรก ภายในเวลา 5 นาทีก็เสมือนสนิทกันมา 5 ปี คุยสนุกถูกคอกันมาก การมาประชุมครั้งนี้ก็ได้ถือว่าเป็นการสร้างคอนเน็คชั่นในวงการงานวิจัยได้อีกเช่นกัน
ไปงานประชุมวิชาการครั้งนี้ สิ่งที่ได้ก็คงไม่ได้แค่วิชาการอย่างเดียว เพราะการศึกษาวัฒนธรรม ความเป็นอยู่ก็เป็นสิ่งน่าสนใจเช่นกัน พูดถึงเกาหลีก็คงต้องพูดถึงแนวความคิดการใช้วัฒนธรรมนำทุกอย่าง ไปเห็นแล้วภูมิใจมากมาก ที่ทางรัฐบาลเขาสร้างชาติด้วยการใช้วัฒนธรรมเป็นตัวนำ เผยแพร่ออกไปยังต่างประเทศ ช่วงหลายปีที่ผ่านมาจนปัจจุบัน คนไทยนิยมมาท่องเที่ยวเกาหลีเพิ่มมากขึ้นอย่างมาก ตั้งแต่ซีรีส์เกาหลีบุกเข้าไทย ครั้งนี้ผมเองจึงไม่พลาดที่จะไป ตามรอยซีรีส์กับเขาบ้าง แต่ด้วยเวลาอันจำกัด จึงได้ตามรอยไม่กี่ที่ ที่แรกหอคอย N-seoul และ ที่ที่สองคลองชองกเยชอน
หอคอย N Seoul Tower ตั้งอยู่บนภูเขานัมซาน ถือได้ว่าเป็นสัญลักษณ์หนึ่งของกรุงโซลก็ว่าได้ เป็นจุดชมวิวกรุงโซลยามค่ำคืน หรือไปชมทัศนียภาพอันงดงามของกรุงโซล หลายท่านอาจจะเคยเห็นหอคอยฉากนี้ในภาพยนตร์หลายๆเรื่อง และเป็นที่เที่ยวอีกแหล่งนึงที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวได้ดี และถ้าได้มีคู่รักเดินทางไปด้วยนั้น จะโรแมนติกมาก ครับ หอคอยจะมีทางขึ้นอยู่ตรงสวนนัมซาน (Namsan Park) บนหอคอยจะมีร้านอาหารแนวหรูและจุดชมวิวครับ แยกเป็น 3 โซนครับ Tower, Plaza, และ Lobby ส่วนถ้าใครต้องการขึ้นหอคอยก็ราวราว 7,000 วอนครับ คิดเป็นเงินไทยก็ราวราว 210 บาท ผมเองก็ไม่ลืมที่จะถ่ายรูป
กับเก้าอี้คู่รักซึ่งเป็นที่นั่งที่ใครต้องถ่ายรูปด้วย
คลองชองกเยชอน Cheonggyecheon Stream สถานที่ที่สองที่ผมไม่พลาดคือ คลองชองกเยชอน Cheonggyecheon Stream คลองนี้อยู่กลางกรุงโซลและก็เป็นสถานที่ที่ดึงดูดผู้คน ซึ่งคลองนี้มีมานานแล้ว เพียงแต่ว่าสมัยก่อนเป็นเพียงคลองที่อยู่ใต้ทางด่วนแล้วก็สกปรกมาก ซึ่งต่อมารัฐบาล ภายใต้การนำของ ลี มยอง พาค ที่ได้รับตำแหน่งเป็นผู้ว่าการกรุงโซล เขาได้เสนอโครงการฟื้นฟูคลองชองกเยชอน โดยทุ่มงบการเงินมหาศาลเพื่อมาฟื้นฟูให้ทันสมัย ตอนนี้น้ำสะอาดใสสะอาด มีน้ำพุ ไฟประดับ น้ำตก เป็นหน้าตาให้เกาหลีใต้ได้เลย สามารถลงไปเดินเล่นเตะน้ำในคลองได้ด้วย ช่วงที่ผมไปเป็นตอนกลางคืนประดับประดาไฟสวยงามมาก จึงมีนักท่องเที่ยวมาเที่ยวเยอะมากเลยในช่วงเวลาค่ำคืน
สุดท้ายงานเลี้ยงย่อมมีวันเลิกรา สัมมนาวิชาการก็เสร็จสิ้น เวลาของนาฬิกาแห่งความสุขมักจะวิ่งเร็วเสมอ ระหว่างผมนั่งเขียนเรื่องราว คืนนี้เป็นคืนสุดท้ายที่เกาหลีใต้แล้วสินะ ผมก็เช็คอีเมลล์จากเพื่อนที่ไทยที่เมลล์มา ซึ่งของฝากที่เพื่อนจากไทยเขาฝากซื้อก็จะเป็นเครื่องสำอางค์โลคอลแบรนด์เกาหลีต่างๆ และไม่ลืม BB Cream ที่คุณแม่รีเควส โดยแวะซื้อก่อนขึ้นเครื่องที่สนามบินอินชอนในช่วงเย็น สุดท้ายผมก็กลับมาสุวรรณภูมิโดยสวัสดิภาพถึงไทยเวลา 21.10 น. ซึ่งเป็นการจบภาระกิจการไปนำเสนอบทความวิชาการอย่างประสบความสำเร็จ และได้เรียนรู้โลกกว้างได้อย่างมีความสุข และแถมด้วยได้ประสบการณ์ในการท่องเที่ยวในต่างแดนที่ประทับใจ เก็บไว้ในความทรงจำตลอดไป
การนำเสนอบทความวิชาการในต่างประเทศในครั้งนี้ ประสบความสำเร็จไปด้วยดี ต้องขอยกความดีความชอบและขอขอบคุณ TGIST สปอนเซอร์หลักของการเดินทางในครั้งนี้ และ มิตรภาพดีๆของคนเกาหลีใต้ที่เกิดขึ้นที่เกาหลีใต้ ทำให้ผมจะจดจำภาพแห่งความประทับใจ อย่างไม่รู้ลืม และถ้ามีโอกาสคงจะได้กลับมา ฮันยองฮาเซโย ที่เกาหลีใต้อีกครั้ง สวัสดีครับ
ACKNOWLEDGMENT The authors would like to thank Thailand Graduate Institute of Science and Technology (TGIST), a member of National Science and Technology Development Agency (NSTDA) for their financial support. The scholar student ID is TG-22-11-53-005D and the grant number is TGIST 01-53-005.
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
เขียนดีมากครับ อยากไปเกาหลีเลย
ตอบลบ(ชมตัวเอง)